อนุกรรมาธิการ การเงิน การคลัง ถกหนักเรื่องเก็บภาษีบ้านหลังที่ 2 ทำให้เกิดผลกระทบการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ เห็นควรยกเลิก เพราะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
เมื่อวันที่ 4 มีนาคม ที่ห้องประชุมกรรมาธิการ N 403 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการการเงิน การคลัง ในคณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในการประชุมคณะอนุกรรมาธิการการเงิน การคลัง โดยมีนายพฤฒิชัย วิริยะโรจน์ รองประธานคณะอนุกรรมาธิการคนที่หนึ่ง น.ส.กชวรรณ เฉิดรัศมี นายชูกฤต ศรีอ่อนรอด นายกษิเดช แดงเดช อนุกรรมาธิการ นายวิรุณ ชัยลือกิจ เลขาอนุกรรมาธิการ นายณพล บริบูรณ์ ที่ปรึกษาประจำคณะอนุกรรมาธิการการเงิน การคลัง น.ส.นภชนก เหมือนนามอญ, รศ.ดร.พ.ต.อ.สมดุลย์ ดำทองสุก, นายฐานวัฒน์ วิบูลย์ธนสาร นายสุรจิต บุญยุคล นายวิศรุต ครุฑไกวัล นายธวัช พิมพ์ใจชน ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการ รวมทั้งคณะอนุกรรมาธิการการเงิน การคลัง เข้าร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง

ในการประชุมครั้งนี้ได้มีวาระสำคัญๆ คือ มติที่ประชุมคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ครั้งที่ 3/2567, การเรียกเก็บค่ายานพาหนะในการออกใบรับรองปลอดศัตรูพืชและไม่ส่งเงินเป็นรายได้แผ่นดิน, การจัดซื้อเครื่องจักรบรรจุเหรียญกษาปณ์และถุงพลาสติกบรรจุเหรียญกษาปณ์ของกรมธนารักษ์ และการกำหนดดอกเบี้ยเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาเรื่อง ให้ธุรกิจให้เช่าชื่อรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ.2565ในอัตราร้อยละ 23 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

นอกจากนี้ในที่ประชุมยังได้ยกประเด็นเกี่ยวกับเก็บภาษีบ้านหลังที่ 2 เนื่องจากบุคคลธรรมดาผู้เป็นเจ้าของที่ดิน หรือสิ่งปลูกสร้าง 2 หลังขึ้นไป จะต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ทำให้เกิดผลกระทบในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ และยังทำให้ GDP ไม่เติบโตอีกด้วย โดยมีผลมาจากประชาชนที่ซื้อบ้านเก็งกำไร หรือปล่อยให้เช่าจะต้องเสียภาษี ทำให้หลายคนต้องประกาศขายบ้านทิ้ง และไม่มีการซื้อเพิ่มมากขึ้น เห็นว่าสมควรให้ยกเลิกการจัดเก็บภาษีบ้านหลังที่ 2 เพื่อกระตุ้นการขายบ้าน ที่ดิน รวมทั้งยังทำให้นักลงทุนกล้าลงทุนในเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจเกิดการเคลื่อนไหว ทำให้ GDP เติบโตอีกด้วย


ภาพ/ข่าว ณพล บริบูรณ์, นภชนก เหมือนนามอญ รายงาน