เตรียมรับศพอดีตพระยันตระ..!!ญาติ ๆ และ ลูกศิษย์ชาวปากพนังพร้อมต้อนรับและจัดงานบำเพ็ญกุศลศพอดีตพระยันตระอย่างยิ่งใหญ่
(10 มี.ค.) มีรายงานว่าที่บ้านเกิดของนายวินัย ละอองสุวรรณ หรือ “อดีตพระยันตระ” ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่บ้านบางบ่อ ชุมชนบ้านต้นหาด ต.ปากพนังฝั่งตะวันออก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช พบว่าภายในบ้านเป็นไปด้วยความเงียบ ซึ่งญาติ ๆ และลูกศิษย์จำนวนกว่า 50 คนร่วมประชุมวางแผนเพื่อนำร่างอดีตพระยันตระกลับมาบำเพ็ญกุศลที่เมืองไทย สู่ บ้านเกิดหลังทราบข่าวการเสียชีวิตของอดีตพระยันตระเมื่อคืนวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมาแล้ว
ก่อนการประชุมพระปลัดกมล คุณธมโม เจ้าอาวาสวัดรัตนาราม ได้พูดผ่านเครื่องขยายเสียงประกาศไปทั่วหมู่บ้านชุมชนบ้านต้นหาด แจ้งเชิญชวนญาติโยมทุกคนในหมู่บ้านมาประชุมปรึกษาหารือ เตรียมจัดงานศพของอดีตพระยันตระ ว่าจะจัดการกันอย่างไรต่อไป
โดยญาติแจ้งเบื้องต้นว่า ตามข่าวลูกศิษย์ระบุว่าจะนำร่างอดีตพระยันตระกลับเมืองไทยก็จะนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลศพจัดงานที่สำนักป่าสุญญตาราม สถานปฏิบัติธรรมชื่อดังที่อดีตพระยันตระไปพำนักเป็นประจำ ตั้งอยู่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี แต่อย่างไรก็ตามทางญาติยังไม่ยืนยันว่าจะจัดงานศพที่ไหนกันแน่ ยังอยู่ระหว่างการประสานพูดคุยประสานงานกับบรรดาลูกศิษย์อีกครั้งเพื่อแจ้งยืนยันสถานที่และเวลารับร่างอดีตพระยันตระที่ชัดเจนอีกครั้งในภายหลังต่อไป
พระปลัดกมล คุณธมโม เจ้าอาวาสวัดรัตนาราม กล่าวว่า เมื่ออาตมารับทราบข่าวการละสังขารของอดีตพระยันตระ รู้สึกเสียใจ และทราบว่าคณะศิษย์ส่วนใหญ่มีความคิดเห็นจะนำร่างของพระอาจารย์ มาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดป่าสุญญตาราม จ.กาญจนบุรี แต่ยังมีคณะศิษย์อีกจำนวนหนึ่ง ทั้งคุณโยมวรรณี พี่สาว รวมทั้งพี่ชายของอดีตพระยันตระ อยากจะนำร่างอดีตพระยันตระ กลับบ้านเกิดที่ อ.ปากพนัง เนื่องจากอดีตพระยันตระ เกิดและบวชที่นี้ วาระสุดท้ายเมื่ออาจารย์ละสังขารแล้ว อยากให้นำสังขารท่านไว้ที่บ้านเกิด ซึ่งจะพูดคุยปรึกษาหารือกันอีกครั้ง ทั้งนี้การนำศพออกมาจากต่างประเทศ อาจจะต้องใช้เวลานานกว่า 15 วัน เนื่องจากท่านเปลี่ยนสัญชาติแล้ว
“ที่ผ่านมาอดีตพระยันตระ ได้สร้างเจดีย์ สร้างศาลา ทำให้มีความผูกพันกันมาตลอด ก่อนที่ท่านจะละสังขาร ทางญาติและลูกศิษย์ ไม่มีใครล่วงรู้มาก่อนว่า ท่านป่วยโรคประจำตัวอะไรบ้าง แม้พระลูกศิษย์ที่เป็นหมอ คอยรับใช้ท่านก็ไม่รู้มาก่อน ว่าท่านป่วยเป็นโรคอะไรบ้าง เหตุการณ์เกิดกะทันกันหัน ทำให้ญาติโยมและลูกศิษย์เศร้าโศกเสียใจ”
พ.ท.สุปรีชา ชลสาคร น้องชายของ อดีตพระยันตระกล่าวว่า เราไม่อยากให้เรียกว่าเป็นการแย่งชิงศพ ซึ่งท่านก็ ละสังขารไปแล้ว เราคิดว่าเราจะทำสิ่งสุดท้ายให้ดีที่สุด และคิดถึงนครศรีธรรมราช บ้านเกิดเมืองนอนของท่านซึ่งท่านมีลูกศิษย์ของท่านเต็มบ้านเต็มเมือง และหากมีการจัดงานบำเพ็ญกุศลศพ ที่บ้านอำเภอปากพนัง เชื่อว่าจะมีลูกศิษย์ของท่านเดินทางมาร่วมงาน เชื่อว่าลุ้นปากพนังอย่างแน่นอน
ไพฑูรย์ อินทศิลา /นครศรีธรรมราช
10 มี.ค.2568