ตำรวจ สภ.หนองขาม เข้าไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างประชาชนกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) กรณีเดินสายไฟฟ้าแรงสูงผ่านที่ดินซึ่งยังไม่สามารถตกลงกันได้

เมื่อเวลา 10.00 น. ( 29 เม.ย. 2568 )พ.ต.ท.พัฐกร ปิยธิติภูวดล รอง ผกก.ป. สภ.หนองขาม ได้รับแจ้งจาก นายไพโรจน์ ตังคโนภาส ผู้ช่วยผู้อำนวยการโครงการก่อสร้างขยายและเสริมความมั่นคงระบบส่งไฟฟ้าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)ว่าขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาไกล่เกลี่ยกรณีข้อพิพาทกับประชาชนในพื้นที่หมู่ที่8 ตำบลหนองขาม ซึ่งเป็นพื้นที่ดินในป่ามะพร้าว ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)กำลังจะทำระบบส่งด้วยการขึ้นสายไฟฟ้าแรงสูงบนเสาไฟฟ้าแรงสูงขนาดใหญ่ โดยทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตได้จ่ายเงินค่าทดแทนไปแล้วในปี2561 แต่จะมาเรียกร้องเอาค่าประเมินค่าเสียหายในปี2567เพิ่มอีกซึ่งเป็นการเรียกเงินเพิ่มอีกจำนวนมากหลังจากมีการประเมินในปี2559 ซึ่งทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยดำเนินการตามข้อบังคับกฎหมาย หลังรับแจ้งจึงได้ประสาน พ.ต.ต.จิรพัฒน์ ศรีภักดี สวป.สภ.หนองขาม พ.ต.ต.สุรศักดิ์ บุญเสริฐ สว.(ชส.) สภ.หนองขาม ร.ต.ต.เอกรินทร์ เจริญมณีศักดิ์ หัวหน้าสายตรวจตู้ยามดาราและเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดป้องกันปราบปรามเดินทางไปร่วมไกล่เกลี่ย โดยพบว่าในป่ามะพร้าวหมู่ที่8ตำบลหนองขามพบว่านางมยุรีย์ จิตอารีย์ อายุ55ปี เจ้าของที่ดินที่โดนระบบส่งไฟฟ้าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)ฟาดผ่านแจ้งว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมกรณีการจ่ายเงินชดเชยของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)จึงไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เดินสายพาดผ่านในครั้งนี้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามไกล่เกลี่ยทั้งสองฝ่ายแต่นางมยุรีย์เจ้าของที่ดินไม่ยอมทุกกรณีนอกจากเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าจะจ่ายค่าชดเชยเพิ่มให้อีก ทำให้การพิพาทในครั้งนี้จึงต้องใช้เวลา ซึ่งทางตำรวจก็ต้องคอยดูแลเหตุการณ์ซึ่งอาจจะมีการกระทบกระทั่งกันเกิดขึ้นก็เป็นได้ พ.ต.ท.พัฐกร ปิยธิติภูวดล รอง ผกก.ป. สภ.หนองขามกล่าวในที่สุด

โดยนางมยุรีย์ จิตอารีย์ อายุ55ปี เจ้าของที่ดิน ได้กล่าวว่าได้กล่าวว่า ทางด้านตนเองนั้นยังไม่ได้รับเงินเยียวยาสำหรับการที่โครงการก่อสร้างขยายและเสริมความมั่นคงระบบส่งไฟฟ้าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งตนเองนั้นเห็นว่าราคาที่ทางโครงการมอบให้นั้นยังไม่เหมาะสมตนเองจึงยังไม่อนุญาตให้ทางโครงการหรือพนักงานของการ ไฟฟ้าเข้ามาทำงานในพื้นที่ของตนเองซึ่งตนเองนั้นมีพื้นที่อยู่จำนวน 135 ไร่ ซึ่งโครงการดังกล่าว ได้ตั้ง เสาไฟฟ้า ขนาดใหญ่ ตามพื้นที่ของตนเองโดยก่อนหน้านี้มีการตกลงและเจรจากันแล้ว แต่ยังหาข้อยุติไม่ได้เรื่องของเงินเยียวยาจากของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)โดยวันนี้ทางโครงการและทางเจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)ได้เข้ามาเพื่อจะทำงานตนเองจึงไม่อนุญาตให้ทาง ไฟฟ้าเข้ามาดำเนินการในที่ดินของตนเอง เนื่องจากข้อตกลงยังไม่เป็นที่ยุติหากให้ทำไปแล้วกลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและไม่ได้รับเงินชดเชยหรือเยียวยาที่ตนเองต้องการ

ทางด้าน นายไพโรจน์ ตังคโนภาส ผู้ช่วยผู้อำนวยการโครงการก่อสร้างขยายและเสริมความมั่นคงระบบส่งไฟฟ้าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)กล่าวว่า ได้มีการดำเนินการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินการในโครงการนี้ว่า เราได้ใช้หลักเกณฑ์ทางที่กฟผ. กำหนด ซึ่งในปัจจุบันทางเราเองอยู่ระหว่างการนำเงินมาจ่าย เพราะว่าในกรณีของเจ้าของที่ดินที่เรายังไม่ได้จ่าย ก268ที่ยังไม่ยอมรับเงินตั้งแต่ต้น เราได้มีการดำเนินการฝากเงินในชื่อของเจ้าของที่ดืนไว้แล้วที่ธนาคาร เมื่อมีการตกลงที่จะรับเงินทาง กฟผ.จะมีการดำเนินการนำเงินส่วนนั้นออกมาจ่ายให้ ซึ่งจะต้องมาตรวจสอบความถูกต้องของหน้างานว่ามีเนื้อที่เท่าไรมีต้นไม้กี่ต้นเพื่อจะได้จ่ายเงินได้ถูกต้องแก่เจ้าของที่ดินดังกล่าว