ข่าวทั่วไทย

Just another WordPress site

ข่าวทั่วไทย

Just another WordPress site

ข่าวทัวไป

หมดอนาคต “น้องยู” ทาสยานรกวัย 13 ปี ที่ผู้ว่าฯเมืองคอน สั่ง พม.ช่วยเหลือถูกตำรวจจับแล้วหลังก่อเหตุลักทรัพย์

เมื่อเวลา 02.42 14 มีนาคม 2568 พ.ต.อ.กิตติชัย ไกรนรา ผกก.สภ.เมือง นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้ง เหตุลักทรัพย์ ที่บ้านเลขที่ 1815/2 ถนนยมราชตำบลท่าวังอำเภอเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช สั่งการให้ พ.ต.ท.ธีระพล พุ่มชัย รอง ผกก.ป.สภ.เมือง นศ. พ.ต.ต.สรยุทธ์ สุวรรณโชติ สวป.สภ.เมือง นศ. พร้อมสายตรวจรถยนต์ รถ จยย. นำโดย ร.ต.อ.มงคล ภูริวัฒนกุล รอง สวป.และ ร.ต.ต.มนูญ ขุนดำ รอง สว.(ป.)ฯ รีบรถไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุและสามารถจับกุมตัวจับกุมตัวคนร้ายไว้ได้ 1 คนทราบชื่อ ด.ช.ยู อายุ 13 ปี เด็กชายเอ นามสมมุติ อายุ 13 ปี พร้อมของกลาง พระเครื่อง 32 องค์ สร้อยคอสแตนเลส 1 เส้น กระเป๋าคาดเอว 1 ใบ โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกับพวกที่หลบหนีลักทรัพย์ในเคหะสถานเวลากลางคืน”ควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป


จากการสอบสวนในเบื้องต้นเด็กชายยู ผู้ต้องหารับสารภาพว่าตนพร้อมด้วยพวก 4-5 คนได้เข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ในบ้านดังกล่าวจริง โดยพรรคพวกที่ร่วมก่อเหตุสามารถหลบหนี ไปได้ ในขณะที่ตนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้เพียงคนเดียวดังกล่าว ควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
สำหรับเด็กชายยู หรือ “น้องยู” เป็นเยาวชนคนเดียวกันกับกรณีเมื่อกลางเดือน ก.พ.2568ที่ผ่านมา นางจอย อายุ 44 ปี อาศัยอยู่ในชุมชนหลังสถานีรถไฟ นครศรีธรรมราชเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากศูนย์ข่าว นคร 24 ชั่วโมงสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อให้ ช่วยประสานงานหาทางช่วยเหลือลูกชายของตัวเองชื่อ”น้องยู” วัย 13 ปี ซึ่งตกเป็นทาสยาเสพติด มีพฤติกรรมลักเล็กขโมยน้อย และถูกเพื่อนบ้านเจ้าทรัพย์ทุกตีทำร้าย ร่างกายอย่างต่อเนื่องได้รับบาดเจ็บอวัยวะภายในบอบช้ำ จนบาดเจ็บกลับมานอนซมอยู่บ้าน จึงอยากให้ช่วยประสานผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยื่นมือเจ้ามาช่วยนำ”น้องยู” ไปรักษาและบำบัดฟื้นฟู อาการติดยาเสพติดอย่างเร่งด่วน

ต่อมานายสมชาย ลีหล้าน้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชได้สั่งการให้นางสาวพิมพ์รภัช ทิพย์ชวานนท์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครศรีธรรมราช และนายชัยวัฒน์ อนันทิโย นักสังคมสงเคราะห์ชำนาญการ รักษาการในตำแหน่งนักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มการพัฒนาสังคมและสวัสดิการเข้าไปตรวจสอบเพื่อหาทางช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

ซึ่งจากการลงพื้นที่ปรากฏข้อเท็จจริง ซึ่งสภาพที่อยู่อาศัย โดยเช่าที่ดินการรถไฟปีละ 300 บาทปลูกบ้านมีลักษณะเป็นบ้านปูนชั้นเดียวหลังคามุงกระเบื้องสภาพไม่มั่นคง มีเครื่องใช้ไฟฟ้าตามความจำเป็น 

โดยมีสมาชิกในครอบครัวอาศัยอยู่ด้วยกัน 5 คน ประกอบด้วย 1.นางสุจิตรา หรือจอย อายุ 44 ปี มารดาน้องยู ประกอบอาชีพเก็บของเก่าขาย รายได้ประมาณวันละ 200-300 บาท ,2.น้องยู อายุ 13 ปี เรียนจบชั้น ป. 6 , 3. ด.ญ.นันท์ (นามสมมุติ) อายุ 7 ปี น้องสาวต่างบิดาน้องยู ปัจจุบันศึกษาอยู่ชั้น ป.1, 4.น.ส.พร อายุ 52 ปี ไม่ได้ประกอบอาชีพ ซึ่งคนรักใหม่ของนางจอยมารดาน้องยู และ 5. เด็กหญิงแมว อายุ 6 ปี หลานของ น.ส.พร ปัจจุบันศึกษาอยู่ชั้นอนุบาล ซึ่งสภาพเศรษฐกิจครอบครัวมีภาระหนี้สินนอกระบบจำนวน 15,000 บาท ซึ่งกู้เงินนอกระบบมาเพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน โดยครอบครัวต้องการให้น้องยู เข้ารับการบำบัดยาเสพติด และหันกลับมาเล่นดนตรีหรือกีฬาซึ่งเป็นกิจกรรมที่เด็กชื่นชอบ

สำหรับแนวทางให้ความช่วยเหลือ 1.สนง.พมจ.นศ. ดำเนินการประสานฝ่ายปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการนำตัวเข้ารับการบำบัดยาเสพติด 2.สนง.พมจ.นศ.พูดคุยให้กำลังใจครอบครัว และร่วมกับครอบครัววางแผนดูแลเด็ก 3.พิจารณาช่วยเป็นเงินสงเคราะห์ตามระเบียบกระทรวง พม. 4.มอบเครื่องอุปโภคแก่ครอบครัวเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น

อย่างไรก็ตามหลัง พม. เข้าไปตรวจสอบและกำหนดแนวทางการให้การช่วยเหลือ 4 ขั้นตอนและรายงานให้นายสมชาย ลีหล้าน้อย ผู้ว่าราชการจังหวัด นครศรีธรรมราชทราบ อย่างเป็นทางการ แต่กลับไม่ได้นำไปสู่การปฏิบัติจริงโดยเฉพาะการนำน้องอยู่เข้าสู่การบำบัดรักษาอาการติดยาเสพติดตามแนวทางที่กำหนด โดยเจ้าหน้าที่ พม.แค่นำน้องยู ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลมหาราชแล้วปล่อยให้กลับบ้านอ้างว่า จะไปรับตัวเข้ารับการบำบัดรักษายาเสพติดภายหลังแล้วก็เงียบหายไป จน”น้องยู”มีพฤติกรรมออกลักเล็กขโมยน้อยเพื่อหาเงินเสพยาเสพติดอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งถูกจับกุมดังกล่าว


ไพฑูรย์ อินศิลา /นครศรีธรรมราช
14 มี.ค. 2568

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *