ชาวบ้านร้องสื่อช่วยหลังน้ำป่าพัดกัดเซาะถนนขาดช่วงอุทกภัยครั้งใหญ่เมืองคอนแต่ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้าน- กองช่าง อบต.ชี้แจงไม่ได้นิ่งนอนใจแต่ให้รอและใช้เส้นทางอื่นๆไปก่อน
(28 ม.ค.) นายแสงอ่อน ไชยคช อายุ 62 ปี อบต หมู่ 5 ตำบลท้ายสำเภา อำเภอพระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช ร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากศูนย์ข่าวนคร 24 ชั่วโมง สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช กรณีเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในช่วงกลางเดือนธันวาคม 2567 ที่ผ่านมาทำให้ถนนสายบ้านไทรงาม (ช่วงที่1)หมู่ 5 ตำบลท้ายสำโพธิ์อำเภอพระพรหมซึ่งเป็นถนนหินคลุกบดอัดขนาดกว้าง 4 เมตรถูกน้ำพัดกะเซาะจนถนนขาดตัดขาดการสัญจร ไปมาอย่างสิ้นเชิง จนถึงขณะนี้ระยะเวลาผ่านมากกว่า 40 วัน ยังไม่มีหน่วยงานใดที่รับผิดชอบเกี่ยวข้องเข้ามาปรับปรุงซ่อมแซมถนนให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ ส่งผลกระทบต่อการสัญจรไปมาและการดำรงชีวิตของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก
นายแสงอ่อน เปิดเผยว่า ในฐานะที่ตนเป็นอบตหมู่ 5 ตำบลท้ายสำเภา ได้เสนอสภา อบต.ท้ายสำภา ก่อสร้างถนนสายไทรงาม 3 ช่วงเป็นถนนหินคลุกบดอัดอย่างแน่นหนาเลียบริมคลองไหล ซึ่งเป็นทางระบายน้ำเชื่อมต่อจากลำคลองเสาธง ซึ่งเป็นลำคลองขนาดใหญ่สายหลัก แต่ทางราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ทำผนังกั้นน้ำ โดยใช้กระสอบทราย และหินจำนวนมากปิดกั้นไม่ให้น้ำจากคลองเสาธงไหลระบายเข้ามาทางคลองไหล เพราะจะทำให้น้ำไหลบ่าเข้าท่วมบริเวณศูนย์วิทยบริการมหาวิทยาลัยรามคำแหง จนเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกหนักทำให้น้ำป่าจากเชือกเขาหลวงจากอำเภอลานสกาเลยทะลักลงมาในคลองเสาธงจำนวนมหาศาลพัดกัดเซาะจนถนนพนังกั้นน้ำและตลิ่งพังก่อนจะกัดเซาะจนถนนหินคลุกพังทลายเป็นระยะทางยาวประมาณ 30-40 เมตร ตัดขาดการสัญจรไปมาอย่างสิ้นเชิง

หลังเกิดเหตุตนได้รายงานให้ทาง อบต. ท้ายสำเภาทราบโดยเจ้าหน้าที่ ได้ลงมาตรวจสอบเบื้องต้นแล้วแต่ยังไม่ได้มีการปรับปรุงซ่อมแซมแต่อย่างใด อ้างว่าจะต้องรอการพิจารณาจ่ายขาดเงินสะสมมาดำเนินการแต่ต้องรอเปิดสภา พิจารณาอนุมัติงบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซม ซึ่งล่าช้าออกไปอีก ตนนคิดว่าในกรณีเกิดภัยพิบัติหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ อบต.จนไปถึงระดับอำเภอจังหวัดสามารถพิจารณาสั่งการให้มีการแก้ไขปัญหาได้ทันที ซึ่งไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย เพราะแค่ใช้รถแบ็กโฮมาตักดินหินที่พังทลาย ขึ้นมาให้เป็นรูปถนนเดิมและอาจจะต้องใช้ดินหรือหินเพิ่มเติมก็คงไม่มากนักงบประมาณ 1-1.5 แสนคงเพียงพอ กับ การแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้เพื่อให้ประชาชนที่สัญจรไปมาได้เป็นการชั่วคราว ส่วนในอนาคตจะมีการแก้ปัญหาถาวรโดยการทำเป็นผนังกั้นน้ำมีประตูเปิดปิดตามที่พูดกันนั้นก็มาพิจารณาดำเนินการอีกครั้งในภาวะปกติ ตนจึงอยากจะกราบวิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเป็นอำเภอจังหวัด หรือ อบต. ท้ายสำเภาเจ้าของพื้นที่เองได้โปรดให้ความสำคัญเร่งช่วยแก้ปัญหาให้ชาวบ้านอย่างเร่งด่วนต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทางกองช่าง อบต. ท้ายสำเภา ได้ชี้แจงผ่านเพจเฟซบุ๊กสื่อมวลชนว่า “ขอขอบคุณด้วยและความห่วงใยนะคะ ทาง อบต.ท้ายสำเภา มิได้นิ่งนอนใจโดยได้เร่งออกสำรวจในพื้นที่ตำบลท้ายสำเภา ที่ได้รับความเดือนร้อนจากน้ำท่วมและน้ำกัดเซาะทั่วทุกพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง จำนวน 13 หมู่บ้านนะคะ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนเร่งจัดสรรงบประมาณเพื่อการซ่อมแซมฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานทั้งตำบลของ อบต.ท้ายสำเภา เพื่อความปลอดภัยได้มีการปิดกั้นเส้นทาง เห็นควรงดใช้เส้นทางเป็นการชั่วคราวสามารถใช้เส้นทางอื่นไปพลางก่อนได้…..ขออภัยมา ณ โอกาสนี้คะ”.

ไพฑูรย์ อินศิลา /นครศรีธรรมราช
28 ม.ค.256